พรบ. ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ 2550 | 24 พ.ค. 2559


ทำไมต้องจัดเก็บ Logs File ? ปัจจุบัน พรบ. ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ 2550 ได้เล็งเห็นถึงโทษจากภัยคุกคามในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นการขโมยข้อมูล การโจมตี ทำลาย ทำให้เกิดความเสียหายต่างๆ Logs File คือสิ่งเดี่ยวที่จะพิสูจน์การบุกรุก การโจมตี การขโมย ต่างๆได้ และจะเป็นสิ่งที่ผู้รักษากฏหมายจะใช้ในการสืบสวนและสอบสวนหาผู้กระทำความผิดมาลงโทษ ดังนั้นหน้าที่ของผู้ให้บริการเครือข่ายคอมพิวเตอร์จะต้องเก็บรักษา Logs File นั้นให้เป็นอย่างดี และหากไม่จัดเก็บไว้ จะต้องมีโทษทางกฏหมาย

1. ถาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มีผลบังคับใช้เมื่อใด

ตอบ พ.ร.บ.ฉบับนี้ประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาไปเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2550 และจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2550 เป็นต้นไป

2. ถาม ทำไมถึงต้องมีพ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

ตอบ นั่นก็เพราะว่าทุกวันนี้คอมพิวเตอร์ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรามากยิ่งขึ้น ซึ่งมีการใช้งานคอมพิวเตอร์โดยมิชอบโดยบุคคลใดๆ ก็ตามที่ส่งผลเสียต่อบุคคลอื่น รวมไปถึงการใช้งานคอมพิวเตอร์ในการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือมีลักษณะลามกอนาจาร จึงต้องมีมาตรการขึ้นมาเพื่อเป็นการควบคุมนั่นเอง

3. ถาม: แล้วแบบไหนจึงจะเรียกว่าเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ. ฉบับนี้

ตอบ การเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ 

การเปิดเผยข้อมูลมาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ผู้อื่นจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะ

การเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยไม่ชอบ

การดักรับข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น

การทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง เพิ่มเติมข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยไม่ชอบ

การกระทำเพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ

การส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์รบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของคนอื่นโดยปกติสุข

การจำหน่ายชุดคำสั่งที่จัดทำขึ้นเพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด

การใช้ระบบคอมพิวเตอร์ทำความผิดอื่น ผู้ให้บริการจงใจสนับสนุนหรือยินยอมให้มีการกระทำความผิด

การตกแต่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่เป็นภาพของบุคคล

เหล่านี้ถือว่าเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ. ฉบับนี้ 


" ผู้ให้บริการ ทุกคน เช่น หอพัก หรือ ผู้ทำอินเทอร์เน็ตในหอพัก จะต้องมีระบบจัดการข้อมูลการจราจรทางคอมพิวเตอร์ และจัดเก็บไว้ไม่น้อยกว่า 90 วัน ไม่เช่นนั้น อาจถูกปรับสูงสุด 5 แสนบาท  " 


4. ถาม: ผู้ให้บริการที่ระบุใน พ.ร.บ. นี้ คือบุคคลใดบ้าง

ตอบ สำหรับผู้ให้บริการตามที่พ.ร.บ.นี้ได้ระบุไว้ สามารถจำแนกได้เป็น 4 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้

4.1ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมไม่ว่าโดยระบบโทรศัพท์ ระบบดาวเทียม ระบบวงจรเช่าหรือบริการสื่อสารไร้สาย

4.2 ผู้ให้บริการการเข้าถึงระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ไม่ว่าโดยอินเทอร์เน็ต ทั้งผ่านสายและไร้สาย หรือในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ภายในที่เรียกว่าอินเทอร์เน็ต ที่จัดตั้งขึ้นในเฉพาะองค์กรหรือหน่วยงาน

4.3 ผู้ให้บริการเช่าระบบคอมพิวเตอร์ หรือให้เช่าบริการโปรแกรมประยุกต์ (Host Service Provider)

4.4 ผู้ให้บริการข้อมูลคอมพิวเตอร์ผ่าน application ต่างๆ ที่เรียกว่า content provider เช่นผู้ให้บริการ web board หรือ web service เป็นต้น 


ผู้ให้บริการ หมายถึง

ผู้ให้บริการการเข้าถึงระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Access Service Provider) 

1.ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (Internet Service Provider) ทั้งมีสาย และไร้สาย

2. ผู้ประกอบการซึ่งให้บริการในการเข้าถึงระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ในห้องพัก ห้องเช่า โรงแรม หรือ ร้านอาหารและเครื่องดืม ในแต่ละกลุ่มอย่างหนึ่งอย่างใด

3.ผู้ให้บริการเข้าถึงระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์สำหรับองค์กร เช่น หน่วยงานราชการ บริษัท หรือ สถาบันการศึกษา